เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 พ.ค. ร.ต.ท.โอปอ โนนทะขันท์ พนักงานสอบสวน สน.พระโขนง รับแจ้งมีเหตุเจ้าของรถยนต์ ขับรถหลบหนีพนักงานไฟแนนซ์ที่ติดตามยึดรถ โดยมีพนักงานไฟแนนซ์กระโดดเกาะท้ายรถติดตามาด้วย บริเวณภายในซอยอ่อนนุช 44 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ก่อนขับรถหนีไปเฉี่ยวชนรถยนต์ 3 คันและรถจักรยานยนต์อีก 1 คันได้รับความเสียหาย จากนั้นยังขับหลบหนีไปจอดอยู่บริเวณสี่แยกศรีอุดม จึงรุดไปตรวจสอบพบรถยนต์โตโยต้า อัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียน ฆณ 4041 กทม. จอดอยู่ภายในรถมีน.ส.บุญยวีร์ ชูบุญศรี อายุ 34 ปี คนขับ และไม่ยอมลงจากรถ เจ้าหน้าที่จึงเรียกรถยกมาลากไปที่สน.พระโขนง
ต่อมานายจักรกฤษ์ ชื่นสุภัค อายุ 60 ปี อาชีพทนายความอิสระ บิดาน.ส.บุญยวีร์ เดินทางมาที่สน. ก่อนเปิดเผยว่า กลุ่มไฟแนนซ์ทำเกินกว่าเหตุ ยอมรับว่ารถยนต์ลูกสาวติดค้างค่างวดจริง เพราะรายได้ของลูกสาวจากการทำสวนยางที่จ.พัทลุง มีรายได้ไม่ดีและก่อนหน้านี้เคยคุยกับไฟแนนซ์แล้วว่า จะหาเงินมาปิดค่างวดให้หลังจากขายยางพาราได้แล้ว แต่ไม่ทราบว่าทำไมต้องมากันหลายคน แล้วลูกสาวอยู่คนเดียวก็คงจะกลัว ตามกฎหมายการตามทวงยึดรถเมื่อขาดส่ง 3 งวดติดต่อกัน ไฟแนนซ์ต้องไปฟ้องศาลให้บังคับคดี
ส่วนตัวแทนบริษัทโตโยต้าลีสซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ให้การว่า ส่งพนักงานไฟแนนซ์คือนายรัฐพงษ์ ผู้บาดเจ็บกับพนักงานอีกคนมายึดรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ซึ่งได้แจ้งให้น.ส.บุญยวีร์ ผู้ครอบครองรถทราบแล้ว แต่ปรากฏว่าน.ส.บุญยวีร์ ไม่ยอมให้ยึดรถแล้วยังหยิบไม้คมแฝกมาพยายามตีนายรัฐพงษ์ ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับหนี ทำให้นายรัฐพงษ์ตัดสินใจกระโดดเกาะรถออกมาเป็นระยะทางกว่า 1 ก.ม. จนกระทั่งตกจากรถ ที่ผ่านมาได้ส่งหนังสือติดตามทวงถามตามขั้นตอนทุกอย่าง และไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แล้วให้ 2 ฝ่ายไปเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แต่ทั้ง 2 ฝ่ายเจรจากันไม่ได้ และต่างแจ้งความจับกันโดยน.ส.บุญยวีร์ แจ้งความให้ดำเนินคดีกับกลุ่มไฟแนนซ์ในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ส่วนกลุ่มไฟแนนซ์แจ้งดำเนินคดีกับน.ส.บุญยวีร์ ในข้อหาทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ และพยายามฆ่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด ซึ่งจะได้สอบปากคำอย่างละเอียดก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป
ที่มา : www.khaosod.co.th