ปิดคดี! หนุ่มนักมวยที่เผาสาวจนสภาพศพดูไม่ได้ เผยเหตุที่ทำไปเพราะสิ่งนี้




หลังถูกตำรวจสอบเค้นอยู่นานหลายชั่วโมง ในที่สุดอดีตนักมวยหมัดหนัก เจ้าของฉายา "พันธุ์ดุ ลูกราชวัง" ก็ทน ความกดดันไม่ไหว ยอมปริปากรับสารภาพว่า "ผมร่วมกับเพื่อนอีกคนฆ่าและเผา นางแสงคำเองครับ"



 สำนวนคดีฆ่าเผาสาวสยองแม่ฮ่องสอนที่เกือบจะมืดมน จึงถูกปิดลงได้อีกคดีหลังตำรวจควานล่าตัวอยู่นานหลายวัน

 คดีอุกฉกรรจ์นี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.แม่ลาหลวง จ.แม่ฮ่องสอน รับแจ้งจากชาวบ้านว่าเจอศพถูกเผาอยู่ในกระท่อมกลางสวนผลไม้ระหว่างบ้านหนองแห้ง ต.เมืองปอน อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน



  สภาพศพที่พบถูกไฟเผาไหม้เกือบหมด โดยไม่รู้ว่าศพที่ไหม้เกรียมอยู่นี้เป็นใคร อายุเท่าไหร่ เป็นชายหรือหญิง



 แต่ไม่นานตำรวจก็สามารถระบุตัวตน ได้ว่าศพที่ไหม้เกรียมนั้นคือนางแสงคำ สุดแดนไกล หรือ วรรณวินิจ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 273/1 หมู่ 1 ต.แม่ลาน้อย อ..แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ที่ญาติแจ้งหายตัวไปจากบ้านพักในพื้นที่หมู่ 7 ต.แม่ลาน้อย พร้อมกับรถจักรยานยนต์



 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้นำทีมสืบสวนเข้าคลี่คลายคดีตามล่าฆาตกรโหด ร่วมกับโรงพักแม่ลาหลวง



 เมื่อทีมสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวตามควานหาเบาะแสแล้วได้ข้อมูลว่า นางแสงคำทำมาหากินด้วยการติดต่อรับผลไม้กับนายโจ้ หรือนายเศวต มะโนธรรม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 5 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ไปขายแล้วยังแอบขายยาเสพติด ก่อนหายตัวไปพยานเห็นขี่รถจักรยายนต์ไปทางห้วยแม่โถ ส่วนนายโจ้ ก็ขับรถกระบะไปทางห้วยแม่โถเหมือนกัน



 เป้าผู้ต้องสงสัยยังจึงพุ่งไปที่ตัวนายเศวต เมื่อตรวจเช็กประวัติอาชญากรรม ยังพบด้วยว่าเคยถูกจับข้อหาค้ายาบ้าเมื่อปี 2552 ติดคุกอยู่เกือบ 2 ปีจึงพ้นโทษออกมา



 ในวันที่ 13 พ.ค. ชุดสืบสวนภาค 5 จึงไม่รอช้ายกกำลังไปหา นายโจ้ที่บ้านทันทีก่อนควบคุมตัวมาให้ พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.ประจวบ วงค์สุข ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ. ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ รอง ผบก.สส.ภ.5 และ พ.ต.อ.ธวัชชัย สอบสวน ซึ่งนายเศวตยืนกรานไม่รู้ไม่เห็น แต่เมื่อถูกรุกไล่ในชั้นเชิงวิธีสืบสวนอย่างหนักก็เปิดปากสารภาพว่า



 "หลังพ้นโทษออกมา ผมหันมาค้าขายผลไม้เลี้ยงตัวร่วมกับนายทูน เพื่อนชาวพม่า แต่ก็แอบติดต่อซื้อขายฝิ่นกับกลุ่มค้ายาเสพติดประเทศเพื่อนบ้าน ต่อมานางแสงคำที่เคยเป็นเมียน้าชายมาขอซื้อฝิ่นไปขาย แรกๆ ก็ไม่มีปัญหา แต่ต่อมาเมื่อเอาฝิ่นไปแล้วกลับ ไม่ยอมจ่ายเงิน ทำให้แค้นใจมากเพราะถูกทวงเงินค่าฝิ่นที่ไปเอามา นอกจากนั้นนางแสงคำยังเบี้ยวค่าผลไม้อีกบางส่วน รวมทั้งหมด เป็นเงินกว่า 9 หมื่นบาท"



 ช่วงสายวันที่ 18 เม.ย. จึงนัดให้มาพูดคุยตกลงเรื่องหนี้สินกันที่ห้วยแม่โถ วันนั้นให้นายทูนนั่งรถกระบะไปด้วยอีกคน เมื่อเจอ นางแสงคำแล้วก็ให้ขึ้นรถ โดยเอารถจักรยานยนต์ใส่กระบะท้ายรถ ก่อนพากันไปพูดคุยที่กระท่อมในสวนผลไม้ของชาวบ้าน



 แต่ปรากฏว่านางแสงคำเอาแต่พูดว่าไม่มีเงินท่าเดียว ด้วยความโมโหจึงชกเข้าไปที่บริเวณปลายคาง 1 ครั้ง ทำให้นางแสงคำทรุดฮวบลงไปนอนแน่นิ่งกับพื้น ตอนแรกคิดว่าคงแค่สลบไป แต่เมื่อลองดูใกล้ๆ กลับพบว่าเสียชีวิตไปแล้ว จึงให้นายทูนใช้ผ้าห่มคลุมศพแล้วหาเศษไม้มาปิดทับก่อนจุดไฟเผา ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี โดยนำรถจักรยานยนต์นางแสงคำไปขายเอาเงินไปใช้หนี้ค่าฝิ่น



 ตอนแรกไม่คิดว่านางแสงคำจะเสียชีวิตง่ายดายอย่างนี้ ที่ผ่านมาเคยเป็นนักมวย มาก่อน ใช้ชื่อ "พันธุ์ดุ ลูกราชวัง" ขึ้นชกที่เวทีชั่วคราวแม่ลาน้อย ก่อนหันมาต่อยมวยทะเลหาเงินช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บางครั้งยังหารายได้พิเศษด้วยการเป็นสายให้ตำรวจอีกด้วย



 "ต้องขอชมเชยการทำงานของตำรวจ ชุดสืบสวนภาค 5 ที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนคดีนี้อย่างต่อเนื่อง จนจับกุมตัวคนร้ายได้ทั้งที่พื้นที่ที่เกิดเหตุนั้น เป็นพื้นที่ ที่ห่างไกลมากการเดินทางเข้าที่เกิดเหตุก็ยากลำบาก แต่ชุดสืบสวนก็ไม่ย่อท้อดำเนินการสืบสวนสอบสวน จนรู้ตัวผู้ต้องหาและสามารถจับกุมได้ในที่สุด" พล.ต.ต.ปชา ชมเชยทีมคลี่คลายคดี



 ส่วนนักชกผิดสังเวียน โดนตั้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและกระทำการซ่อนเร้นอำพรางหรือเผาทำลายศพ ลักทรัพย์สินหรือรับของโจร หมดสิทธิ์ขึ้นเวทีผ้าใบไปอีกตลอดชีวิต



About Unknown