ตร.ติงอย่าขุดคุ้ยข้อมูลนศ. จักรยานมีสิทธิ์วิ่งบนถนน!

ตร.ชี้จักรยานมีสิทธิวิ่งบนถนน หลังชาวโซเชียลฯแตกเป็น 2 กลุ่มโต้กันดุเดือดประเด็น "จักรยานควรวิ่งบนถนนหรือไม่" ติงไม่สมควรขุดคุ้ยข้อมูลนศ.สาว เพื่อให้เกิดความเกลียดชัง

จากกรณีอุบัติเหตุ นักศึกษาสาวปี 2 คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ขับรถยนต์พุ่งชนนักปั่นจักรยานชมรมสันทรายเมืองเชียงใหม่ บริเวณถนนเชียงใหม่ - เชียงราย ขาออก ช่วงกิโลเมตรที่ 8-9 หมู่ 4 ต.ตลาดขวัญ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ และบาดเจ็บอีก 2 ราย ภายหลังพบว่าผู้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวมีแอลกอฮอล์ในเลือดสูง 67 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวมาแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 3 พ.ค. พ.ต.อ.นันทิศักดิ์ วรรณ์ยางค์กูร ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุปราฏว่ามีกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ ในสังคมออนไลน์ หรือโลกโซเชียลมีเดียกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นที่ถกเถียงกันในเรื่องที่ว่า จักรยานไม่ควรจะวิ่งบนถนนในเส้นทางที่รถยนต์ขนาดต่าง ๆ วิ่งผ่าน เพราะเกรงว่าจะไปกีดขวางเส้นทางบนถนนนั้น ในเรื่องนี้อยากชี้แจงว่า ตามกฎหมายนั้น "ถนน" ถือเป็นเส้นทางที่รถจักรยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ หรือรถที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ทุกชนิดสามารถใช้ได้ แต่รถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ ควรจะวิ่งเลนซ้ายมากกว่า ซึ่งในช่วงเกิดเหตุนั้น จากการสอบสวนพบว่ารถจักรยานมีการเกาะกลุ่ม และวิ่งเลนซ้ายอยู่แล้ว ไม่มีลักษณะกีดขวางทางจราจรเลนอื่นแต่อย่างใด

พ.ต.อ.นันทิศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ส่วนอีกประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับที่มีการโพสต์ข้อความ และมีการขุดคุ้ยข้อมูลของนักศึกษาผู้ก่อเหตุที่ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกมาอย่างต่อเนื่องว่าไปสังสรรค์กันที่ไหนบ้าง และประวัติเป็นอย่างไร เพื่อให้เกิดอับอายเกลียดชัง หรืออะไรก็ตามนั้น เรื่องนี้ตนเห็นว่าไม่เหมาะสม เพราะไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ และตัวคนขับเองก็บาดเจ็บสาหัส ทรัพย์สินเสียหายเหมือนกัน และเชื่อว่าคู่กรณีก็คงเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย ส่วนในทางคดีนั้นตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งสอบปากคำพยาน รวมรวมหลักฐานอย่างเต็มที่ แต่ขณะนี้ผู้ขับขี่รถยนต์อาการยังไม่ดีขึ้น หากแพทย์ระบุอาการปลอดภัยให้ปากคำได้ ก็จะแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

"อยากฝากถึงกลุ่มผู้ชื่นชอบการปั่นจักรยาน เพื่อการออกกำลังกายด้วยว่า หากมีการปั่นเป็นกลุ่มใหญ่ ทางตำรวจยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพียงแค่ท่านติดต่อหรือประสานมาที่โรงพักแต่ละแห่ง เพื่อจะได้มีการจัดเส้นทางดูแล รวมถึงการนำขบวนให้เพื่อให้เกิดความปลอดภัย มากขึ้น" พ.ต.อ.นันทิศักดิ์กล่าวทิ้งท้าย.

ที่มา : dailynews