พ่อฝากลูกไว้กับเพื่อนบ้าน แต่กลับมาเจอภาพที่ทำให้ใจสลาย แค่คนเดียวยังไม่พอใจ

ตร.ท่าข้ามรวบหนุ่มโรงงาน ขยี้กามเด็กหญิง 8 ขวบ กับ 4 ขวบ สองพี่น้อง หลังพ่อเด็กร้องปวีณา ให้ความเป็นธรรม ผู้ต้องหาสารภาพผิด กราบขอโทษ ก่อนถูกดำเนินคดีข้อหาหนัก
เมื่อเวลา13.30 น.วันที่ 5พ.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พานายอุ่น (นามสมมติ) อายุ 42 ปี อาชีพ รปภ. เดินทางไปที่ สน.ท่าข้าม พบกับ พ.ต.อ.เชิดชาย สัตบุตร ผกก.สน.ท่าข้าม พ.ต.อ.โกมินทร์ อ่อนเพชร์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ และพ.ต.ท.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล รองผกก.สส. หลังเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัว นายณัฐวัฒน์ ฉ่ำวารี อายุ33 ปี พนักงานโรงงานแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาธนบุรีเลขที่ จ.300/2558 ลงวันที่ 4 พ.ค.58 ข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน13 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ริมถนนบางขุนเทียนชายทะเล แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมกราบขอโทษ อ้างทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอุ่นได้เข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมจาก มูลนิธิปวีณาฯ กรณีเด็กหญิงรุ้ง (นามสมมติ) อายุ 8 ขวบ ลูกสาวคนโต และเด็กหญิงฟ้า (นามสมมติ) อายุ 4 ขวบ ลูกสาวคนเล็ก ถูกคนร้ายที่อาศัยอยู่ในแมนชั่นเดียวกัน ย่านท่าข้าม บุกเข้าไปภายในห้องพัก ก่อนล่วงละเมิดทางเพศ และได้เข้าแจ้งความที่ สน.ท่าข้ามเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา

พ.ต.อ.เชิดชาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการสอบ ป.วิอาญาเด็กทั้งสอง พร้อมส่งตรวจร่างกาย ซึ่งผลตรวจเบื้องตนปรากฏว่า อวัยวะเพศมีการฉีกขาด พร้อมกับมีหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ขณะที่ผู้ต้องหาเข้าและออกห้องพักผู้เสียหายในเวลากลางคืน จึงได้ขออนุมัติหมายจับ จากศาลอาญาธนบุรี ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ อ้างว่าเห็นพ่อเด็กไปทำงานและปล่อยลูกไว้เพียงลำพัง จึงเกิดความสงสาร จึงซื้อขนมไปฝากและไปเล่นด้วย ยอมรับว่าเกิดอารมณ์ทางเพศจนทนไม่ไหว จึงลงมือล่วงละเมิดทางเพศเด็กทั้งสองคน

นายอุ่น กล่าวว่า ตนเป็น รปภ.ให้กับบริษัทแห่งหนึ่ง ทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ช่วงปิดเทอมตนก็จะพาลูกไปวิ่งเล่นอยู่แถวที่ทำงาน ตกเย็นก็พากันกลับบ้านกินข้าวกินปลา จากนั้นตนก็จะฝากลูกไว้กับเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนออกไปขี่จักรยานยนต์รับจ้าง เพื่อหารายได้เสริม ระหว่างนั้นลูกก็จะพากันวิ่งเล่นกันสักพักแล้วกลับเข้าห้อง ตนเสร็จจากวิ่งก็ประมาณ 3 ทุ่มจึงเข้าบ้าน วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 28 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ขณะที่ตนวิ่งรถอยู่ รู้สึกเป็นห่วงลูกขึ้นมาจึงรีบกลับเข้าบ้านเร็วกว่าปกติ เมื่อมาถึงหน้าห้องตะโกนเรียกลูกแต่ก็ไม่มีเสียงตอบ จึงรีบไขกุญแจเปิดเข้าไป ถึงกับตกใจเมื่อเห็น นายณัฐวัฒน์ยืนอยู่กลางห้อง ลูกสาวคนโตนั่งดูทีวีด้วยอาการหวาดผวา ส่วนลูกสาวคนเล็กนอนแก้ผ้าอยู่บนที่นอน ตนจึงถามคนดังกล่าวไปว่า “เข้ามาในห้องผมทำไม” เค้าก็บอกว่า “เข้ามาเล่นกับเด็ก อย่าไปว่าเค้านะ” จากนั้นก็รีบออกจากห้องไป ตนสังเกตเห็นว่าลูกมีท่าทางตื่นกลัว เมื่อสอบถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ ต่อมาอีกวันจึงค่อย ๆ ถามลูกอีกครั้ง ตนแทบใจสลายเมื่อลูกบอกว่า เค้าเข้ามาทำลูกของตนในห้องหลายครั้งแล้ว และลูกสาวคนโตก็ยังบอกอีกว่าเค้าก็ทำกับน้องด้วย บังคับให้อมนกเขา เค้ามีมีดอันใหญ่และขู่ว่าอย่าไปบอกใคร ไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย จากนั้นตนจึงรีบเข้าแจ้งความและขอให้ทางมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือให้ความเป็นธรรมกับลูกของตนด้วย

“ผมต้องเลี้ยงลูกมาคนเดียวอย่างยากลำบาก ตั้งแต่ภรรยาหนีไปอยู่กับสามีใหม่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมรักลูกเท่าชีวิต ใครที่มาทำกับลูก ผมยอมไม่ได้ ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยให้ความเป็นธรรมดำเนินคดีเอาผิดกับคนที่ทำกับเด็กไร้เดียงสาให้ถึงที่สุด” นายอุ่น กล่าว

ด้านนางปวีณา กล่าวว่า ขอฝากเตือนผู้ปกครองทุกท่านขอให้ดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าท่านจะต้องดิ้นรนทำงาน หาเช้ากินค่ำก็ตาม แต่สภาวะอันล่อแหลมในปัจจุบัน หากปล่อยเด็กไว้ตามลำพังอาจเป็นอันตรายได้..

ที่มา : http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-170955