สุดสลด! หนุ่มเศรษฐีฆ่าตัวตาย เขียน จม.ทิ้งมรดกไว้หลายล้าน อ่าน จม.ถึงกับน้ำตาซึมจนคนพูดกันในวงกว้าง!

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (1 ก.ย.) ศูนย์วิทยุ 191 ได้รับแจ้งว่า พบชายนอนอยู่หลังบ้าน ที่บริเวณศีรษะมีเลือดไหลจำนวนมาก ภายในบ้าน ชุมชนท่าคราวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ที่เกิดเหตุพบศพชายนอนเสียชีวิตอยู่บริเวณใต้ต้นมะกรูด ซึ่งเป็นที่ทำครัวด้านหลังบ้าน สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อเชิ้ตลายสก๊อต กางเกงขาสั้น บริเวณขมับขวา มีรูกระสุน 1 แห่ง เลือดไหลนอง ส่วนปลายเท้าพบปืนขนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 1 กระบอก เสียชีวิตประมาณ 1 ชั่วโมง ทราบชื่อผู้ตายต่อมา คือ นายอายุวัฒน อายุ 63 ปี อดีตพนักงานของเหมืองแม่เมาะ กฟผ.แม่เมาะ จ.ลำปาง

นอกจากนี้ ยังพบจดหมายที่ผู้ตายเขียนไว้จดหมายมอบเงินในบัญชีที่มีหลายล้านบาทมอบให้ ลูกๆ ทั้ง 3 คน โดยเนื้อหาในจดหมายระบุว่า ตนเองทุกข์ทรมานมานานแล้วไม่มีใครดูแล ป่วยหลายโรคทั้งโรคเบาหวานขั้นรุนแรง โรคตับ โรงมะเร็งลำไส้ และอีกทั้งยังใกล้จะตาบอดสาเหตุจากโรคร้ายต่างๆ ทำให้ใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ได้ ต้องกลายเป็นคนพิการ รับผิดชอบและทำสิ่งที่ดีต่อชีวิตไม่ได้แล้ว จึงขอจบชีวิตลง ขอให้จัดการงานศพด้วย และยังได้บอกให้ลูกๆ นำทรัพย์สินของตนที่มีไปเก็บไว้ มีทั้งที่ดิน รถยนต์ เงินออมทรัพย์อีกหลายรายการ

ด้าน นางวรรณี อายุ 63 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเป็นอดีตภรรยาของผู้ตาย มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน โดยผู้ตายได้มีภรรยาใหม่และลูกอีก 2 คน อยู่ที่ อ.แม่เมาะ แต่ก็ได้เลิกรากัน ลูกสาวของตนจึงได้ขอให้นายอายุวัฒน มาอาศัยอยู่ด้วยเพื่อจะได้ช่วยดูแลได้ เพราะลูกสาวต้องไปทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งนายอายุวัฒนเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ประมาณ 3 เดือนกว่า บ่นตลอดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่เพราะมีโรครุมเร้าหลายโรค ล่าสุด ก็บ่นว่าปวดท้องจากโรคลำไส้

 อนเกิดเหตุนายอายุวัฒนได้เดินทางหลังบ้าน คิดว่ามานั่งกินข้าว สักพักได้ยิงเสียงดังคล้ายประทัด ผ่านไปครึ่งชั่วโมงก็ไม่เห็นกลับเข้ามาในบ้าน จึงเดินตามไปดูหลังบ้านก็พบว่านายอายุวัฒนนอนอยู่ใต้ต้นมะกรูด มีเลือดไหลออกจากศีรษะ จึงได้รีบโทรแจ้งตำรวจทันที ส่วนปืนที่ใช้นั้นนายอายุวัฒนเคยบอกว่ามีปืน แต่ตนเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน หลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์บอกลูกสาวแล้ว และจะเดินทางกลับจากประเทศสิงคโปร์ทันที

เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง และนำศพไปชันสูตรอย่างละเอียด ก่อนจะส่งศพให้ญาติทำพิธีทางศาสนาต่อไป

เครดิต : innnews