เมื่อชายคนนี้เอาลูกชิ้น ให้ขอทาน แต่ไม่ยอมเอา กลับพูดแค่ประโยคนี้ประโยคเดียว ทำให้คิดอะไรได้มากมาย



ที่มา Title Wrestlemania
6/4/2558
2วันที่ผ่านมา ผมไปเจอขอทานคนนี้ที่ร้านค้าสะดวกซื้อแห่งนึง เดินเข้าไปเปิดตู้แช่เย็นหยิบขวดเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อนึงมา1ขวด ร่างกายของชายคนนี้ มอมแมม น้ำท่าไม่อาบ ผมรุงรังไม่ได้สระมาหลายปี รองเท้าไม่ใส่ ทุกคนในร้านต่างพากันหวาดระแวงกลัว แสดงความรังเกียจ รวมทั้งพนักงานของร้าน ชายคนนี้ยืนยิ้มอยู่ห่างๆลูกค้าที่ยืนต่อแถวเรียงคิวกันยาวเหยียด หลายต่อหลายคนกลัวเขา แต่หากใครได้รู้เจตนาจริงๆของผู้ชายคนนี้เขาเพียง
"รอคนอื่นชำระเงินเรียบร้อยเขาจะขอเป็นคนต่อคิวคนสุดท้าย"
 ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับผู้ชายรุปร่างตัวมอมแมมคนนี้ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ก่อนลุกค้าคนสุดท้ายวางผงซักฟอก ขนมขบเคี้ยว น้ำอัดลม จากตระกร้า เขาค่อยๆเดินมาที่หน้าคัชเชียร์สินค้าเครื่องที่สาม วางเครื่องดื่มชูกำลัง ในมือของเขาที่กำเหรียญ เต็มไปด้วยเหรียญ บาท และเหรียญ 25สต. 50สต.มากมาย บรรจงนับ สายตาพนักงานทุกคนรังเกียจ ทุกคนหวาดระแวง ก่อนจะรับเงินจากมือดำๆสกปรกของชายผู้นี้แล้วคิดเงินให้ ก่อนจะเดินออกไป ผมในตอนนั้นครุ่นคิดสักพัก ก่อนจะนึกเรื่องราวเกี่ยวกับเขาได้
เรื่องต่อไปนี้จะทำให้หลายคนถึงกับฉงนงงและยกนิ้วให้ผู้ชายคนนี้ที่มีเพียง "เสื้อผ้าเก่าๆและเชื้อโรค"
 ย้อนกลับไปปี2556 วันนั้นผมไปเล่นดนตรีเปิดหมวก เวลาสักประมาณ19.30น.ได้มั้ง กำลังเล่นสนุกสนานเลยกับเพื่อนคนนึงชื่อเสก ทำงานเป็น รปภ.ที่ห้างสรรพสินค้า เล่นกันบนสะพานลอย จู่ๆมีผู้ชายคนนึงลักษณะดังรูป
แต่วันนั้นเขาเดินถือขวด เก็บขวด เดินมาผ่านไปผ่านมาสักราว5รอบได้มั้ง พอมารอบที่6โยนเงินให้1บ.
และยกมือไหว้ เวลาผ่านไปสัก1ปี เจอเขาอีก ครั้งนี้ผมเล่นคนเดียว เขาเดินมาให้1บ. และมานั่งฟังข้างๆผม พร้อมกับถือแก้วน้ำพลาสติกแก้วนึง ในสภาพที่ก้มหัวขอเงิน พลางฟังเพลงที่ผมเล่นผมร้อง ผมเดินไปถามชายผู้นี้ว่า "กินข้าวรึยังล่ะ" ชายคนนี้พยักต์หน้า ผมเดินไปซื้อลูกชิ้นอบสมุนไพรจากร้านรถเข็นของเพื่อนที่เป็นพ่อค้าที่รุ้จักกัน ในนั้นมีลุกชิ้นเนื้อ1ไม้ และไส้กรอกรมควัน1ไม้ ผมยื่นให้เขาเพราะเขามีน้ำใจกับผม ให้เงินตั้ง1บ. เยอะครับ เพราะในเนื้อตัวและชีวิตของเขาตอนนั้นมีไม่ถึง10บ. สิ่งที่ชายคนนี้ปฏิบัติกับผมคือ "ยกมือไหว้" พร้อมกับปฏิเสธ ผมบอกด้วยความรุ้สึกรักเขาด้วยคำพูดที่อ่อนโยนในเงินมหาศาลที่เขายกให้ผม "ว่าเอาไปเถอะ วันนี้พี่กินให้อิ่ม" ชายคนนี้กลับส่ายหัว และชี้ไปที่กีต้าร์ของผมแล้วปรบมือ รัว ก้มหัวให้ผม ผมก้มหัวให้เขา น้ำตาของผมไหลในวันนั้น ก่อนจะชี้ไปที่สุนัขจรจัดที่อยุ่ละแวกนั้น เดิมทีสุนัขตัวนี้มียามเลี้ยง แต่บางวันก็ไม่ให้ มันจึงอาศัยที่นั้นหลับนอน ด้วยร่างผอมติดกระดูก เดินตามกลิ่นมาหาผม ชายคนนี้ชี้ไปที่สุนัขและพูดว่า "มันยังไม่ได้กินเลย" เมื่อพูดจบประโยคชายคนนี้ลงไปกอดเล่นกับมัน หยิบถุงลุกชิ้นที่ผมซื้อ ลงไปให้สุนัขจรจัดตัวนั้นกิน ผมเจอเขาอีกครั้งในร้านสะดวกซื้อในวันนั้น แล้วกลับย้อนนึกไปถึงผู้ชายคนนี้ในเมื่อ2-3ปีก่อน นึกทีไรมันทำให้ผมมีความสุข สุขอย่างพองโต รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองมันพองโตขยายๆออกเรื่อยที่ได้นึกถึงผู้ชายคนนี้ อย่าดูคนเพียงเปลือก อย่าดูที่ภายนอก คนเลือกเกิดไม่ได้
เรื่องของขอทานผู้นี้เป็นตัวอย่างนึงที่ดีจะให้คนไทยอย่างพวกเราได้รู้ว่า
"มนุษย์เราเกิดมาเลือกที่จะเป็นคนครบ32ไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็น "คนดี"ได้"
อย่างเฉกเช่นชายผู้นี้
ที่
"ความเป็นคนบ้านั่งพูดนั่งคุยนั่งหัวเราะคนเดียวของเขา ไม่สามารถขีดจำกัดให้เขาไม่สามารถที่จะเป็นคนดีได้ "

แล้วพวกเราคนไทยทุกคนล่ะ วันนี้ครบทั้ง32 วันนี้คุณเลือกที่จะเป็น "คนดี" แล้วหรือยัง

ที่มา : http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-165212

About Unknown