หัวอกคนเป็นแม่ ลูกสาววัย 14 ปี น้องแวว ถูกฆ่าข่มขืนทิ้งศพลำห้วย ข้างบ้าน เกือบ 2 ปี คดีไม่คืบ แห่ร้องตำรวจ หน่วยงานเกี่ยวข้องเงียบเป็นเป่าสาก ต้องขึ้นป้ายติดฝาบ้านขอความเป็นธรรม เตรียมประกาศขายบ้าน หอบครอบครัวหนี หวั่นโจรชั่วกลับมาทำร้าย ล่าสุดแห่ร้อง "ครูแก้ว" อดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงกระเกษตรฯ และ นายจิรวัฒน์ เวียงด้าน สปช. ที่พึ่งสุดท้าย ประสานตำรวจช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ผู้ข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีเกิดคดีสะเทือนขวัญ ฆาตกรรมปริศนาฆ่าทิ้งศพ "น้องแวว" เด็กหญิงอายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ทั้งยังเป็นนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมนางรำของโรงเรียนอีกด้วย
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวนั้นยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเบาะแสคนร้าย หลังเวลาล่วงเลยมานานเกือบ 2 ปี โดยเหตุเกิดตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2556 ขณะผู้ตายได้อาศัยอยู่กับยายเพียงลำพัง เพราะพ่อ แม่ ต้อง ไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ หาเงินมาเลี้ยงครอบครัว เนื่องจากฐานะยากจน โดยช่วงเย็นวันเกิดเหตุน้องแวว ได้หายตัวไปแบบไม่ทราบสาเหตุ หลังไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้าน จนชาวบ้านพบกลายเป็นศพลอยอืดปริศนา เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2556 บริเวณลำห้วยโคน ห่างจากบ้านผู้ตาย ประมาณ 400 เมตร ทางเข้าหมู่บ้านนาอินทร์ ต.นาเดื่อ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
ภายหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมชาย พิมพ์ชู อดีตผกก.สภ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ที่ดำรงตำแหน่งขณะนั้น พร้อมด้วย ร.ต.อ.พีรวิทญ์ อุทัยแสน พนักงานสอบสวน สภ.ศรีสงคราม ประสานงานกับเจ้าหน้าที่แพทย์เข้าตรวจสอบ เบื้องต้นจากการชันสูตรศพ พบศพอยู่ในสภาพลอยอืด ไม่สามารถดูรูปร่างเคล้าโคลงใบหน้าได้ สวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขาสั้นขาวลายฟ้า ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง แต่มีสิ่งผิดปกคือกางเกงขาสั้นที่สวมอยู่ในสภาพกลับด้าน ไม่สวมกางเกงใน และเสื้อชั้นในอยู่ในลักษณะได้รับความเสียหายจากการถูกดึง แต่ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีบาดแผลการถูกทำร้าย เนื่องจากสภาพศพอืดเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็น คาดว่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
อย่างไรก็ตาม ตำรวจเชื่อว่าผู้ตายถูกฆาตกรรมก่อนนำศพมาทิ้งลงลำห้วย พร้อมได้นำศพส่งไปตรวจชันสูตรที่สถาบันนิติเวช จ.ขอนแก่น ก่อนนำศพผู้ตายส่งกลับมาให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2556 แต่ปัจจุบันผ่านไปเกือบ 2 ปี คดียังไม่มีความคืบหน้า และไม่มีหน่วยงานเกี่ยวข้องมาดูแลให้ความช่วยเหลือ รวมถึงทางด้านหน่วยงานตำรวจ สภ.ศรีสงคราม ยังไม่สามารถให้ความกระจ่างเกี่ยวกับคดีได้
ขณะเดียวกัน นายธวัชชัย พร้อมด้วย นางบำเพ็ญ (ขอสงวนนามสกุล) พ่อและแม่ของเด็กสาวผู้ตาย พร้อมญาติพี่น้อง ยังคงออกมาเรียกร้องวิงวอนให้ทางตำรวจ รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งสืบสวนติดตามเบาะแส จับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว แต่กับไม่ได้รับการเหลียวแล จนไร้ที่พึ่งต้องอาศัยขึ้นป้ายติดฝาบ้านเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม จากผู้ผ่านไปมา รวมถึงสังคมออนไลน์ ที่นำเรื่องราวสุดรันทดไปเผยแพร่ พร้อมกันนี้ ยังได้ประกาศขายบ้านพักอาศัย เพื่อพาสามีกับลูกอีก 1 คน หนีไปอยู่ต่างจังหวัด เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความความปลอดภัย เกรงว่าคนร้าย ที่เชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่กับมาทำร้าย
นางบำเพ็ญ กล่าวด้วยน้ำตาว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา หลังลูกสาวถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม หนำซ้ำกับไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะตำรวจ เคยร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมไปหลายครั้ง กับไม่คืบหน้าไม่ได้รับการสนใจ ซ้ำเติมครอบครัวไปอีกทั้งที่มีฐานะยากจน ยอมรับไม่มีเงินที่จะไปวิ่งเต้นคดี เพราะต้องทำงานรับจ้าง ไม่รู้จักใคร ไม่มีเส้นสาย ร้องทุกข์ไปไม่มีใครสนใจ จนต้องขึ้นป้ายติดฝาบ้านร้องทุกข์แทน ที่สำคัญความปลอดภัยในชีวิตคนในครอบครัวไม่มีเลย นอนไม่หลับ หากยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ตนจำเป็นต้องประกาศขายบ้านหนีไปอยู่ที่อื่น เพราะหมู่บ้านที่อยู่อาศัยไม่ปลอดภัย ทุกวันนี้อยู่ด้วยความหวาดผวา วอนเมตตาครอบครัวเราได้ไม่มีที่พึ่งแล้ว อยากให้จับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดี ให้ได้วิญญาณลูกสาวจะได้ไม่ห่วง
ล่าสุด ครอบครัวผู้เสียหายได้เดินทางไปยื่นเอกสารร้องเรียนขอความช่วยเหลือ จากนายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเป็นคนพื้นที่อำเภอเดียวกัน รวมถึง นายจิรวัฒน์ เวียงด้าน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ช่วยประสานงานไปยังตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบให้ความช่วยเหลือ รื้อคดีมาสอบสวน ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี เพราะเป็นที่พึ่งสุดท้าย
โดยเบิ้องต้น นายศุภชัย ได้รับเรื่องไว้ เพื่อนำไปประสานงานกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง หาทางช่วยเหลือต่อไป ยอมรับว่าสงสารครอบครัวนี้มาก เพราะฐานะยากจน แต่ต้องมาเกิดเรื่องราวเลวร้ายกับครอบครัว ซ้ำร้ายไม่สามารถจับคนร้ายได้ ลูกสาวต้องตายฟรี ตนในฐานะเคยทำงานดูแลทุกข์สุขชาวบ้าน ขอฝากไปถึงหน่วยงานตำรวจ หน่วยงานเกี่ยวข้อง ให้ความช่วยเหลือเร่งด่วน เพราะคดีสะเทือนขวัญแบบนี้ หากไม่สามารถจับคนร้ายได้ ชาวบ้านต้องหวาดผวา หาความปลอดภัยไม่มี แล้วประชาชนจะพึ่งใคร