เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอนประมาณ เที่ยงคืนครึ่งของวันที่ 5 พ.ค. 2558 ดิฉันได้เดินทางกลับจาก ตปท. กับแฟนและกำลังขึ้น Taxi จากสนามบินดอนเมืองกลับบ้าน
ตอนที่กำลังต่อคิวเพื่อขึ้น taxi ก็สังเกตุเห็นโชเฟอร์มายืนรอรับลูกค้ากันอยู่เยอะค่ะ สะดุดตาพี่คนนึง เพราะพี่แกเสียงดังมาก เรียกคนนั้นคนนี้วุ่นวาย และกร่างมาก ตอนแรกคิดว่าเค้าเป็นคนจัดคิวให้คนอื่น พอถึงคิวดิฉันก็เป็นพี่คนนี้ล่ะค่ะที่จะต้องมาพาดิฉันกลับบ้าน
ใบส่วนที่เป็นของผู้โดยสารค่ะ (จนท. น่าจะลืมขยับเดือนค่ะ จริง ๆ ต้องเป็น เดือน พฤษภาคม และต้องเป็นวันที่ 5 ไม่ใช่วันที่ 4 เพราะเลยเที่ยงคืนมาแล้ว)
คือพี่เค้ามีออร่าอะไรแปลกๆ บางอย่างจนแฟนพูดขึ้นมาว่า “คนนี้ไม่เวิคชัวร์” แต่ก็ไม่อยากเรื่องมาก ก็ปล่อยเลยตามเลย อีกอย่างมากันสองคนด้วย แล้วมันก็ดึกมากแล้ว อยากรีบกลับบ้าน
ตั้งแต่ขึ้นรถเลยค่ะ พอพี่แกเปิดประตูขึ้นรถ คือพี่แกก็กำลังคุยโทรศัพท์กะเพื่อนค่ะ พี่แกพูดกับเพื่อนในโทรศัพท์ว่า
“Yes-duck (ทับศัพท์ภาษาไทย) ไป kod ไกลอีกฝั่งบางนาโน่นแหนะ ไกล ship หาย” เรากับแฟนก็หันหน้ามองกันแบบ เอาแล้วไง
พอขับมาซักพัก เลยสนามบินมานิดหน่อยอยู่ดี ๆ พี่แกก็มาขอ บัตรที่ทาง จนท. เค้าให้กับผู้โดยสารค่ะ ดิฉันเองก็นึกว่าเค้าจะเอาไปดูรายละเอียดอะไร ก็เลยยื่นให้ คือตอนนั้นดิฉันเหนื่อยมาก ง่วงๆมึนๆ ด้วย สติไม่ค่อยมี
จริง ๆ ตัวดิฉันเองก็เคยอ่านเกี่ยวกับประสบการณ์ไม่ดีเกี่ยวกับ taxi สนามบินมานะคะ ว่าอีใบนี้ไม่ควรให้กับโชเฟอร์โดยเด็ดขาด และโชเฟอร์ที่อยู่ดี ๆ มาขอใบนี้ก็มักจะมีประสงค์ไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่
พอดิฉันตั้งสติได้ว่าอันนี้มันของผู้โดยสารนี่หว่า ก็เลยบอกพี่แกไปว่า “พี่คะ รบกวนขอใบคืนด้วยนะคะ มันเป็นส่วนของผู้โดยสารค่ะ” ซักพักพี่แกก็ยื่นคืนมากให้ค่ะ
แต่.......................... มันเป็นใบเปล่า!!!!! คือไม่มีเขียนอะไรลย ไม่ใช่ใบที่ดิฉันเพิ่งให้พี่แกไปแน่นอน!!
ดิฉันก็เลยถามว่า “ใบนี้มันไม่ใช่ใบที่ให้คุณไปนะคะ มันไม่มีเขียนอะไรเลย รบกวนขอใบเดิมคืนด้วยค่ะ”
แต่..........................พี่แกทำเป็นไม่ได้ยินค่ะ (สงสัยกำลังคิดแผนการณ์อยู่) คือเงียบไปนานมากก แน่นิ่งไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ จนเราต้องถามรอบสอง และ รอบสาม พี่แกถึงยื่นใบเก่ามากคืนให้
พอยื่นใบคืนมาปั๊ป ซักพักค่ะ อยู่ดี ๆ พี่แกก็เปิดไฟฉุกเฉินค่ะ เครื่องยนต์ก็ติด ๆ ดับ ๆ ซะงั้นค่ะ คือลักษณะเหมือนการไขกุญแจลง และ ขึ้นแบบไม่สุดอ่ะค่ะ อธิบายไม่ถูก เหมือนเราสตาร์ทรถแล้วหมุนขึ้นไม่สุด แล้วจะมีไฟเครื่องยนต์สีส้มขึ้นมาประมาณนั้น
แล้วพี่แกก็พูดขึ้นมาค่ะว่า “คุณจะเอาใบไปร้องเรียนอะไรผมครับ นี่ผมรถเสียนะครับ ไม่ถือว่าปฎิเสธผู้โดยสารนะครับ จะโทรก็โทรไปเลยครับ”
คือดิฉันกับแฟนก็งงค่ะ เพราะดิฉันยังไม่ทันพูดหรือจะบอกว่าร้องเรียนอะไรเลย อยู่ดี ๆ พี่แกก็พูดขึ้นมาเองงี้!
ขณะนั้นรถกำลังอยู่ในเลนกลาง ถนนวิภาวดี คือมันผิดสังเกตุตรงที่รถมีปัญหาแต่เครื่องยนต์มันไม่ได้กระชาก หรือมีเสียงแปลก ๆเลยค่ะ แล้วเสียงพี่คนขับแกก็ราบเรียบมาก ไม่ได้ตกใจหรือพยายามเร่งเครื่องอะไร
ดิฉันเคยขึ้น taxi ที่เครื่องยนต์มีปัญหา เค้าก็จะพยายามเร่งเครื่อง แต่นี่มันไม่ใช่เลยค่ะ (หรือดิฉันเข้าใจผิด อาจจะไม่ใช่ทุกคันที่จะเร่งเครื่อง ถ้าผิดขออภัยด้วยค่ะ)
อย่างไรก็ตามคือทุกอย่างมันดูผิดปกติไปหมดทุกอย่าง เหมือนมันไม่ใช่อุบัติเหตุอ่ะค่ะ คือมันต่อเนื่องกันมาก
- บ่นกับเพื่อนว่าไกลไม่อยากไป
- มาขอใบส่วนของผู้โดยสาร
- ให้ใบผิด ยื่นใบเปล่ามาให้แทน
- ส่งใบที่ถูกให้ รถเสียทันที
- อยู่ดี ๆ ก็พูดขึ้นมาเองว่า นี่รถเสียนะ ร้องเรียนไม่ได้
แต่คือพอพี่แกพยายามตีรถอยู่ถนนด้านนอกก็ดูปกติดีนะคะ จะเสียก็เฉพาะตรงเข้าริมทางแล้ว จะมาดราม่าติด ๆดับ ๆก็ตรงเข้าริมทางแล้วอ่ะค่ะ บังเอิญมากกกกกกกกกกกค่ะ ถ้าเป็นนักแสดงดิฉันคงให้แค่ เกรด D ค่ะ ต้องไปเรียนแอคติ้งคลาสให้สมจริงใหม่นะค้าาา
ก็ยังดีค่ะ ที่พี่แกไม่ปล่อยดิฉันและแฟนไว้ที่กลางถนนวิภาวดี ยังมีกระจิตกระใจออกซ้ายมาจอดหน้าปั้ม ปตท. แต่ก็ยังย้ำอยู่อีก 2- 3 ครั้งว่า “คุณจะร้องเรียนอะไรไม่ได้นะครับ นี่ผมรถเสียไม่ได้ปฎิเสธผู้โดยสาร”
พอดิฉันกับแฟนมาขึ้น taxi อีกคันที่มาจอดรอ ดิฉันก็แอบถ่ายรูปรถและทะเบียนเอาไว้ คือพอพี่แกเห็นเท่านั้นล่ะค่ะ พี่แกก็เดินดุ่ม ๆ เข้ามาด่าดิฉันกับแฟนเลยค่ะ ว่าจะถ่ายรูปรถทำไม! จะมาร้องเรียนอะไรกับผม! ผมรถเสียอยู่เนี่ย! และก็อีกมากมาย จำไม่ได้ค่ะ แต่คือเดินมากแบบจะเอาเรื่อง
คือดิฉันเองก็ไม่สามารถบอกได้ร้อยเปอร์เซ็นต์นะคะ ว่าพี่แกรถเสียจริงหรือไม่ รู้แต่ว่าทุกอย่างมันน่าสงสัยไปหมด ไม่น่าไว้วางใจ และพี่แกไม่น่าจะทำแบบนี้ครั้งแรก (พี่แกถึงกับมีใบที่ให้กับผู้โดยสารเก็บไว้กับตัว ดิฉันว่าก็ไม่ธรรมดาแล้วค่ะ)
ดิฉันเองก็ขี้เกียจจะร้องเรียนอะไรกับใครให้วุ่นวาย เพราะก็ไม่รู้ว่าจะมีหน่วยงานไหนดำเนินการต่อหรือไม่ ก็ได้แต่มาแชร์ประสบการณ์และให้เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนระวังตัวนะคะ เพราะคนพวกนี้เค้าจะพยายามหาลูกเล่นใหม่ ๆ ไหลไปได้เสมอ เหมือนที่พี่แกบอกดิฉันว่าดิฉันไปร้องเรียนอะไรไม่ได้ ทั้งที่ดิฉันยังไม่ได้พูดหรือทำอะไรเลย
น่าเสียดายนะคะ ที่คนพวกนี้จะต้องเป็นด่านหน้าของประเทศไทย นักท่องเที่ยวมาก็ต้องมาเจอกับคนพวกนี้ first impression ประเทศเราคงจะแย่มากกกๆๆๆๆ
ดิฉันขอแนะนำเลยค่ะ ว่าถ้าเรารู้สึกไม่ดีกับโชเฟอร์ไหนดิฉันว่าเราว่าน่าจะเลือกได้นะคะ ว่าขอไม่ไปกับคนนี้ ดิฉันมองว่าเค้าต้องมาเป็นคนมาส่งเราที่บ้านและรู้ที่อยู่ของเรา เชื่อสันชาติญานของตัวเองดีที่สุด ถ้าดิฉันกับแฟนเลือกไม่ไปกับคนนี้ตั้งแต่แฟนดิฉันบอกว่า “คนนี้ไม่เวิคชัวร์” คงไม่ต้องเจอกับคนแบบนี้
ไม่อยากคิดเลยว่าถ้าเป็นคนที่เดินทางคนเดียว เหตุการณ์มันอาจจะเลยเถิดไปถึงไหน
ขอให้ระวัง taxi คันนี้ไว้เลยค่ะ (ข้าง ๆคือคนขับค่ะ)
อย่างไรก็ดี คนทำดีเราก็ต้องชมค่ะ หลังจากเจอ taxi เฮีย ๆ ก็มาเจอ taxi ดี ๆ อีกคันค่ะ
พี่เค้าพูดเพราะมาก พูดครับทุกคำ ไม่เคยปฎิเสธผู้โดยสาร ใกล้-ไกล ไปหมดค่ะ พี่เค้ายังบอกอีกนะคะว่า โชเฟอร์คันเก่านี่ก็ประหลาดเนอะ รถไม่เห็นติดวิ่งไปบางนา ก็ได้เยอะ พี่แกชอบค่ะ อยู่ดี ๆ ก็เอาเงินมาให้เค้า
อยากให้ทุกคนที่เลือกมาทำงานที่เกี่ยวกับการบริการมีทัศนคติดี ๆ แบบพี่คนนี้จริง ๆ เลยค่ะ เพราะ taxi ดี ๆ ดิฉันก็เจอมาเยอะมากนะคะ แต่เจอแบบเฮีย ๆ ปลาเน่าก็เหม็นกันทั้งหมดค่ะ สงสารคนดี ๆที่เค้าทำมาหากินกันนะคะ
ขอฝากชื่อพี่ taxi คนดีนะคะ ชื่อ คุณวิชัย ศรีทองคล้าย ขับรถทะเบียน ทส 1960 หากใครเจอก็ใช้บริการพี่เค้าเยอะ ๆ นะคะ
ที่มา pantip